วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

หยุดความเคลื่อนไหว Freezing shot

การถ่ายภาพหยุดความเคลื่อนไหว

ภาพหยุดความเคลื่อนไหว (Freezing Action) มีหลากหลายประเภท ส่วนมากมักจะหมายถึง ภาพที่เคลื่อนไหวเร็ว ๆ (จนมองไม่ทันด้วยตาเปล่า) แล้วสามารถหยุดภาพได้อย่างชัดเจน จากนั้นนำมาดู และพิจารณาถึงส่วนต่าง ๆ ในภาพได้อย่างละเอียด ตัวอย่างของภาพแนว Freezing Action หรือภาพหยุดความเคลื่อนไหว มีดังนี้

กระโดดลงน้ำ แต่ดูเหมือนเดินลงไป 

- ภาพคนกำลังกระโดด แนวนี้ฮิตที่สุดครับ ไปเที่ยวที่ไหน ต้องโดดกันตลอด
- ภาพคนกำลังเล่นกีฬา เช่น คนกำลังตีเทนนิส ขณะลูกเทนนิสลอยกลางอากาศ
- ภาพนกกำลังบินกลางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นนกอินทรี เหยี่ยว หรือนกนางนวล
- ภาพสัตว์กำลังตะครุบเหยื่อ เช่น จิ้งเหลนกำลังแลบลิ้นจับแมลง เป็นต้น
- ภาพหยดน้ำ ที่หยดลงมากระทบผิวน้่ำ และแตกออกอย่างสวยงาม
- ภาพกระสุนปืนที่กระทบผลแตงโม และระเบิดออก (อันนี้อาจเกินความสามารถกล้อง DLSR ต้องใช้กล้องความเร็วสูงพิเศษ)

หลายคน เวลาดูภาพเพื่อน ๆ ไปเที่ยวสถานที่สวย ๆ ต่าง ๆ มักจะเห็นภาพเพื่อน ๆ กระโดดค้างอยู่ในอากาศ ทำท่าทางต่าง ๆ ที่ดูสนุกสนาน ดังนั้น ถึงคราวที่เราไปเที่ยว เราก็จะกระโดดมาโชว์เพื่อน ๆ บ้าง

การจับภาพการกระโดดน้ำ ภาพจะสวยขึ้น เมื่อมีน้ำกระเด็นออกมาเล็กน้อย
ภาพกระโดดที่ดูสูงกว่าความเป็นจริง (ถ่ายให้ดูโอเวอร์นิดหน่อย)

เนื้อหาที่จะมาเล่าให้ฟังในวันนี้ ผมจะมาอธิบายวิธีการถ่ายภาพ Stop Action เพื่อเป็นอีกแนวทางหนึ่ง ให้เพื่อน ๆ ถ่ายภาพวันหยุดพักผ่อน หรือสถานที่ท่องเที่ยวมาแชร์กัน เพื่อความสนุกสนานมากยิ่งขึ้นครับ หลักการง่ายมากเลยครับ คร่าว ๆ มีดังนี้

** ใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่สูง ๆ (เร็ว ๆ) ถ่ายภาพ **

จบแล้ว!!!! จริง ๆ ครับ หลักการมีอยู่เท่านี้จริง ๆ ส่วนจะต้องใช้ความเร็วสูงมาก สูงปานกลาง สูงนิดหน่อย เดี๋ยวผมจะแจกแจงด้านล่างนะครับ

วิ่งไป โดดลอยจากพื้นไป

ปัจจัยที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
- วัตถุยิ่งเคลื่อนไหวเร็ว Shutter Speed ยิ่งต้องเร็ว เช่น นกบิน หรือผีเสื่อกระพือปีก อันนี้ต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงมาก อาจจะ 1/1000
- แสงต้องมาก (แสงน้อยถ่ายยากครับ ถ้าต้องถ่ายจริง ต้องใช้แฟลช) เพราะหากแสงน้อย ถ้าเร่งความเร็วชัตเตอร์สูง ๆ แล้ว แสงจะเข้าเซนเซอร์ได้น้อย ทำให้ไม่สามารถถ่ายได้ (ถ่ายออกมาภาพมืดหมด) จริงอยู่ เราสามารถเร่ง ISO มาก ๆ ทำให้เซนเซอร์ไวแสงได้ แต่ภาพที่ได้นั้น จะมีคุณภาพไม่ค่อยน่าประทับใจสักเท่าใดนัก
- ควรถ่ายตามแสง (ย้อนแสงก็ได้ เดี๋ยวค่อยอธิบายเพิ่ม แต่ต้องใช้แสงอื่นช่วย) เพื่อให้สีสันฉากหลังสดใส และตัวแบบหน้าไม่ดำ


หลักการพื้นฐาน

        ตัวแบบยิ่งเคลื่อนไหวเร็ว ยิ่งต้องใช้ค่าความเร็วชัตเตอร์ที่สูงมากขึ้น ไม่เช่นนั้น ภาพที่ได้จะไม่นิ่งสนิท และไม่คมชัด เช่น 
ภาพนกนางนวลบิน ควรใช้ความเร็วชัตเตอร์ 1/1000, 1/2000 วินาที หรือเร็วกว่านั้น 
ภาพคนกำลังวิ่งลอยกลางอากาศ อาจใช้ความเร็ว 1/2000 วินาที 
ภาพคนกระโดด บางครั้ง ความเร็วแค่ 1/400 หรือ 1/800 วินาที ก็ได้ภาพนิ่งสุด ๆ แล้ว ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ผมเคยใช้ความเร็วแค่ 1/250 ภาพก็ได้ผสมกัน นิ่งบ้าง ไม่นิ่งบ้าง แต่บางครั้ง แสงไม่อำนวย ก็ต้องอาศัยโชคช่วยบ้าง แต่ถ้าแสงมาก ๆ อัดเข้าไปเลยครับ 1/4000 หรือ 1/8000 เลย
ภาพปลากำลังว่ายน้ำช้า ๆ ความเร็วชัตเตอร์ 1/200 วินาทีก็เพียงพอแล้ว

การกระโดดน้ำ

วิธีการตั้งค่ากล้อง (แบบง่าย ๆ)

ปรับกล้องเป็นโหมด TV สำหรับ Canon (โหมด S สำหรับ Nikon) และใช้ค่าความเร็วชัตเตอร์สูง ๆ ตามลักษณะที่ผมอธิบายข้างบน เช่น 1/2000, 1/1000, 1/500 เป็นต้น ถ้าแสงมาก ๆ ก็ใช้สูง ๆ ไปเลย ภาพนิ่งแน่นอน

โหมดการวัดแสง ตั้งเป็นเฉลี่ยทั้งภาพเลย (เราก็ไม่ค่อยใช้อย่างอื่นอยู่แล้ว), ISO ปล่อยไหล, Aperture (รูรับแสง) ปล่อยไหล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หมายความว่า เราถ่ายในที่ซึ่งมีแสงสว่างมากเหลือเฟือนะครับ อย่างที่อธิบายไปตอนต้น

สำหรับช่างภาพระดับมืออาชีพ หรือคนที่ถ่ายเก่งแล้ว เขามีวิธีเฉพาะของเขาเองครับ บางคนใช้โหมด M และตั้งค่าแมนนวลทุกอย่าง เพื่อให้แสงแต่ละภาพออกมาได้อย่างที่เขาต้องการจริง ๆ ขึ้นกับว่าต้องการให้แสงในภาพปรากฏออกมายังไง ผมมีบล็อกเกี่ยวกับการถ่ายโหมด M อย่างละเอียด ไปหาอ่านดูนะครับ 

คนถ่ายลงไปเล็งกล้องใกล้ ๆ พื้น เพื่อสร้างภาพลวงตาว่า โดดสูงกว่าปกติ

เทคนิค! ถ้าต้องการหลอกตาให้ดูว่ากระโดดสูงกว่าปกติ เราอาจย่อตัวลงไปถ่ายต่ำ ๆ เป็นมุมเงย ภาพก็จะหลอกตาว่าโดดสูงกว่าธรรมชาตินะครับ จริง ๆ ภาพนี้ ไม่ได้โดดสูงมากมายอะไร

เคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการถ่ายภาพกระโดด (ที่กำลังนิยมกัน) : 

- การจัดองค์ประกอบ ให้เว้นที่เผื่อกระโดดข้างบนไว้ด้วย
- ให้ตัวแบบไปยืนที่จะกระโดด แล้วเราโฟกัสที่แบบ พอได้โฟกัสแล้ว ให้เปลี่ยนเป็นแมนนวลโฟกัสครับ เพื่อล็อคโฟกัสไว้เลย ไม่ต้องโฟกัสแล้ว จากนี้ไปตรงนี้จะชัดทุกภาพ แต่ถ้าเปลี่ยนตำแหน่ง ต้องโฟกัสใหม่นะครับ

เพียงเท่านี้เองครับ เสร็จแล้วสำหรับการตั้งค่ากล้อง คราวนี้มาพูดถึงการกดชัตเตอร์บ้าง ซึ่งโดยทั่วไปมี 2 แบบนะครับ แล้วแต่ใครจะถนัดแบบไหน เพื่อนผมในกลุ่ม มีทั้ง 2 แบบเลยครับ
- ถ่ายภาพเดียวเด็ด ๆ ไปเลย จับจังหวะ
- ถ่ายต่อเนื่องเป็นชุด โดยการปรับกล้องเป็นโหมดถ่ายต่อเนื่อง (high speed ไปเลย) แล้วกดชัตเตอร์ค้างไว้ เพื่อถ่ายเป็นชุดหลาย ๆ ภาพต่อเนื่องไปเลย

สำหรับตัวผม ชอบจับจังหวะสวย ๆ ทีเดียวหรือ 2 ทีมากกว่า . . . อันนี้แล้วแต่ชอบนะครับ

ข้อควรระวังของการกระโดด

อันนี้เล่าให้ฟังจากประสบการณ์ตรง ที่เกิดกับตัวเองจริง ๆ เลยนะครับ
  • หัวเข่าและข้อเท้า ถ้าไม่ฟิตจริง โดดแค่ 2-3 ทีก็พอครับ อย่าโดดมาก เข่าจะกระแทก ทำให้บาดเจ็บได้ เอาแบบทำท่าสวย ๆ เน้น ๆ แค่ไม่กี่ทีเลิกเลยครับ
  • ต้องเซฟหลังด้วย ต้องรู้จักท่ากระโดดด้วย แรก ๆ อาจโดดเบา ๆ ก่อน เพื่อฝึกฝนก่อน ถ้าทำท่าผิด อาจปวดหลังไปเป็นอาทิตย์เลย
  • ระวังกางเกงขาดตอนกระโดด

ไว้ะมาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการถ่ายภาพสนุก ๆ และได้ความรู้นิด ๆ หน่อย ๆ ต่อวันหลังนะครับ . .  พบกันใหม่ครับ

* ถ้าชอบเทคนิคการถ่ายภาพ และรูปที่ผมถ่าย ช่วยทวีต และแชร์ใน G+ หรือเฟซบุ๊คด้วยนะครับ
* ผมจะพยายามเขียนเทคนิคการถ่ายภาพเท่าที่ศึกษามา และประสบการณ์ส่วนตัวในการถ่ายสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยภาษาที่ง่าย ๆ เพื่อให้เพื่อน ๆ ถ่ายภาพออกมากันสวย ๆ นะครับ blog.suaythep.com แชร์ด้วยใจ. . .

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น