วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2557

แจกอีบุ๊ค ฟรี

แจกอีบุ๊ค ฟรี

ฉบับที่ 1 : เทคนิคการถ่ายภาพขาวดำ 
ประจำเดือน กรกฎาคม 2014

ฉบับที่ 2 : การถ่ายภาพให้สีสดใส 
ประจำเดือน สิงหาคม 2014

อีบุ๊คเขียนเองครับ ออกเดือนละ 1 ฉบับ ตอนนี้ออกมา 2 ฉบับแล้ว สามารถดาวน์โหลดไปอ่านได้เลยครับ อีบุ๊คเป็นรูปแบบแนวนอน เหมาะกับการอ่านในแท็บเล็ต เช่น iPad หรือ Galaxy Tab หรือ Galaxy Note หรือจะอ่านในมือถือแบบแนวนอนก็ได้ครับ

ถ้าใครเปิดดูออนไลน์แล้วภาพไม่ชัด แนะนำให้โหลดเป็น PDF เข้าไปเก็บไว้ในเครื่องก่อนค่อยเปิดนะครับ ภาพจะคมกริบ ชัดใส ดูแล้วสบายตาครับ


วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เลนส์หนอนฟิกซ์

เมื่อวานเราคุยเกี่ยวกับเลนส์ซูมหนอนไปแล้ว วันนี้เราจะมาคุยเกี่ยวกับเลนส์ฟิกซ์หนอนแต่ละตัวกันบ้าง เลนส์ฟิกซ์ คือเลนส์ที่มีความยาวโฟกัสคงที่ ไม่สามารถซูมได้ สำหรับมือใหม่ที่ลองใช้เลนส์ฟิกซ์ใหม่ ๆ จะรู้สึกแปลก ๆ ที่ว่ามันหมุนไม่ได้ แต่พอใช้ไปนาน ๆ ก็จะชินเอง 

เลนส์ฟิกซ์โดยทั่วไปจะให้คุณภาพของภาพที่ถ่ายดีกว่าเลนส์ซูมมาก เนื่องจากผู้ผลิตใช้ชิ้นเลนส์คุณภาพสูงมาใส่ในเลนส์ฟิกซ์ ซึ่งถ้าทำอย่างนั้นในเลนส์ซูมแล้ว ตัวเลนส์จะมีราคาแพงมาก จนทำตลาดได้ยาก และสำหรับเลนส์ฟิกซ์ด้วยกันเอง ก็มีหลายระดับคุณภาพให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมด้วยนะครับ มีตั้งแต่ชนิดราคาประหยัด ไปจนถึงราคาสูงมาก


EF 50 f/1.8 


เลนส์ฟิกซ์หรือเลนส์ไพรม์ ระยะนอร์มัล สำหรับถ่ายทั่วไป

เลนส์ประเภทนี้ ถ่ายคนก็ได้ ถ่ายวิวก็ดี ถ่ายสตรีตก็ไม่เลว เป็นระยะที่ใกล้เคียงสายตามนุษย์ที่สุด คือตาเห็นประมาณไหน ถ่ายออกมาก็ประมาณนั้น

EF 50 f/1.8 ถูก ดี เบา ถ่ายสวย คุ้มค่ากับเงินที่จ่าย เป็นเลนส์ฟิกส์ตัวแรกที่แนะนำสำหรับมือใหม่
EF 50 f/1.4 แข็งแรง และดีกว่าตัวบนทุกด้านยกเว้นราคาที่แพงกว่า
EF 50 f/1.2L ดีกว่าสองตัวข้างบนเยอะ แต่หนักและต้องจ่ายมากกว่า 1.8 สิบเท่ากว่า

EF 35 f/2 เลนส์ 35 ราคาประหยัด
EF 35 f/2 IS เลนส์ 35 กันสั่น เพิ่งออกมาใหม่สด ๆ ร้อน ๆ
EF 35 f/1.4L เลนส์ 35 เทพสุดของหนอน ตัวนี้ได้คะแนนสูงสุดตลอดกาลจากทุกวงการ


EF 85 f/1.8

เลนส์ฟิกซ์หรือเลนส์ไพรม์ ระยะเทเลโฟโต้ สำหรับถ่ายพอร์เทรต

อย่างที่รู้กันว่า เวลาถ่ายภาพคนหรือนางแบบ ต้องใช้เทเล่ถ่าย หน้าจะสมส่วน ดูสวย หน้าไม่บาน ฉากหลังละลายดี ทำโบ้เก้ง่ายและสวย เวลาออกทริปถ่ายนางแบบ จะเห็นช่างภาพแต่ละคนพกเฉพาะเลนส์ยาว ๆ ขาว ๆ อวบ ๆ ทั้งนั้น แต่บางคนที่เน้นคุณภาพสุด ๆ จะใช้เลนส์ฟิกซ์ระยะเทเลโฟโต้แทน ถ่ายยากกว่าหน่อย แค่คุณภาพทิ้งกันไกล

EF 85 f/1.8 เทเล่ตัวประหยัด ที่หวังผลการถ่ายได้สบาย ถ่ายนางแบบสวยทุกรูป
EF 85 f/1.2L II เลนส์พอร์เทรตไวแสงของหนอน ตัวนี้ถ่ายภาพคนสวยสุดละ ฉากหลัง การไล่โทนสี ทุกอย่างดีหมด แต่ซื้อแล้วระวังเงินในกระเป๋าหมดไปด้วย

EF 135 f/2.8 with softfocus สงสัยจะซอฟต์ไป คนเลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ 
EF 135 f/2L ว่ากันว่าระยะ 135 ถ่ายภาพคนสวยที่สุด แล้วเลนส์ตัวนี้ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังซะด้วย ถ่ายสวยทุกภาพจริง ๆ แต่ต้องถอยไกลว่า 85 แต่เมื่อใดที่เล็งแล้วเห็นนางแบบในเฟรม กดลูกเดียว สวยทุกภาพ ไม่ต้องคิดมาก

EF 200 f/2.8L เลนส์ฟิกซ์ระยะ 200 สำหรับละลายฉากหลังสุด ๆ แค่คนใช้ตัวนี้กันน้อยไม่ค่อยนิยม 
EF 200 f/2L IS ถ่ายสวยก็จริง แต่ยังไม่เคยเห็นใครพกมาถ่ายนางแบบ สงสัยจะใหญ่ไป

เลนส์ฟิกซ์หรือเลนส์ไพรม์ ระยะไวด์ สำหรับถ่ายทิวทัศน์

เลนส์ไวด์ฟิกซ์ระดับเทพของหนอน สำหรับผู้ที่เน้นภาพวิวจริง ๆ จัง ๆ เท่านั้น เรียกว่าเป็นเลนส์เฉพาะทางจริง ๆ ใครชอบตัวไหน ก็เลือกใช้กันแล้วกันนะครับ

EF 14 f/2.8L II เลนส์อัลตร้าไวด์คุณภาพสูงสุดของหนอน เกือบจะกว้างเท่าฟิชอายแล้ว
EF 24 f/1.4L II เลนส์ไวด์ตัวเทพ สำหรับถ่ายวิว แต่คะแนนรีวิวไม่ดีเท่าไหร่ ไม่รู้ทำไม


EF 100 f/2.8 macro


เลนส์ฟิกซ์หรือเลนส์ไพรม์ มาโคร สำหรับถ่ายภาพระยะใกล้

เลนส์มาโครแท้ ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเลนส์ฟิกซ์ ส่วนเลนส์ซูมที่เห็นคำว่า macro นั้น เป็นคุณสมบัติพิเศษที่เค้าแถมมาให้ถ่ายระยะใกล้ได้นะครับ คุณสมบัติของเลนส์มาโครคือ ถ่ายได้คมชัดสุด ๆ ชัดกว่าเลนส์ธรรมดาเยอะครับ เพราะเค้าออกแบบเอาไว้อย่างนั้น บางคนที่นำเลนส์มาโครไปถ่ายนางแบบ ก็สามารถทำได้นะครับ แต่ต้องระวังว่า นางแบบคนนั้น จะต้องมีหน้าเนียนสวยใส ตามธรรมชาติ ถ้าหากนางแบบไม่สวยจริง แล้วเราเอาเลนส์มาโครไปถ่าย อาจทำนางแบบไม่สบอารมณ์ได้ เนื่องจากสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่สวยบนใบหน้า จะฟ้องออกมาอย่างชัดเจนหมดเลย

EF-S 60/2.8 Macro เลนส์มาโครสำหรับกล้องตัวคูณที่เป็นเลนส์ฟิกซ์ตัวเดียวของกล้องแคนนอน สังเกตว่าในบรรดาเลนส์ EF-S มีเลนส์ตัวนี้ตัวเดียวที่เป็นเลนส์ฟิกซ์ นอกนั้นเป็นเลนส์ซูมทั้งหมด
EF 50 f/2.5 Macro เลนส์พลาสติก เบาหวิว ๆ สำหรับผู้เริ่มต้นถ่ายมาโคร ด้วยงบประมาณเพียงเล็กน้อย
EF 100 f/2.8 Macro เลนส์มาโครราคาประหยัดยอดนิยมของหนอน ที่ครองใจผู้ใช้มานานมาก
EF 100 f/2.8L Macro IS เลนส์มาโครไฮบริด (สองแกน) ตัวแรกของโลก ใช้มือเปล่าถือถ่ายสบาย
EF 180 f/3.5L Macro ว่ากันว่า เลนส์ตัวนี้คมชัดสุด ไม่มีอะไรเทียบแล้ว
MP-E 65/2.8 Macro เลนส์มาโครที่มีกำลังขยายสูงสุดถึง 5 เท่าตัวเดียวของหนอน สำหรับขามาโครตัวจริง


คุยเกี่ยวกับเลนส์ซูมหนอน

คุยเกี่ยวกับเลนส์หนอนแต่ละตัว วันนี้จะคุยเฉพาะเลนส์ซูมก่อนแล้วกันนะครับ โดยสรุปให้ฟังถึงเลนส์แต่ละตัวสั้น ๆ นะครับ


EF-S 55-250

เลนส์สำหรับกล้องตัวคูณ (crop factor)
EF-S 18-55 ทุกคนต้องมี เพราะมาพร้อมกับกล้อง แต่อย่าดูถูกมันนะ ถ้าฝึกดีๆ ก็สร้างภาพเทพได้
EF-S 55-250 เลนส์เทเล่ตัวแรกที่แนะนำให้ใช้สำหรับมือใหม่ ถ่ายง่าย ถ่ายสวย สบายกระเป๋า
EF-S 18-135 เลนส์ช่วงใหม่ของหนอน ทำมาตอบสนองกล้องตัวคูณโดยเฉพาะ
EF-S 15-85 คุณภาพว่าดีกว่า 18-135 ในราคาสองเท่ากว่า ๆ
EF-S 18-200 ถ่ายไม้จิ้มฟันยันเรือรบ พกตัวเดียวถ่ายทั่วโลก เหมาะกับทุกสถานการณ์
EF-S 17-55 f/2.8 เค้าว่าเป็นเทพตัวคูณ ระยะต่างกับ 18-55 นิดเดียวแต่ใช้ชิ้นเลนส์คุณภาพเยี่ยม
EF-S 10-22 พอถ่ายอย่างอื่นเก่ง ค่อยเล่นเลนส์ไวด์ ระยะเทียบเท่าเลนส์เทพ 16-35 ของฟุลเฟรม
EF-S 10-18 เลนส์ไวด์สำหรับกล้องตัวคูณตัวใหม่ล่าสุดของหนอน เพิ่งออกมาสด ๆ ร้อน ๆ ราคาประหยัดมาก 



เลนส์ซูม 3 ช่วงชุดเทพสุด (f/2.8) ครอบคลุมทุกช่วงกล้องหนอน
EF 16-35 f/2.8L II เลนส์ซูมช่วงไวด์คุณภาพดีสุดของหนอน
EF 24-70 f/2.8L II เลนส์ช่วงนอร์มัล ที่เพิ่งออกมาใหม่ ๆ สด ๆ ร้อน ๆ คุณภาพเหนือชั้น
EF 70-200 f/2.8L IS II ขาวอวบตัวเทพสุดของกล้องหนอน ถ่ายนางแบบสวยสุด ๆ


EF 70-200 f/4L IS
เลนส์ซูม 3 ช่วงชุดประหยัด (f/4) และเบาหวิว ๆ 
EF 17-40 f/4L เลนส์ซูมช่วงไวด์ตัวรอง แต่ก็ยังเป็นเลนส์ L
EF 24-105 f/4L เลนส์ช่วงนอร์มัลกันสั่น ที่ถ่ายได้ถึง 105
EF 70-200 f/4L IS ขาวบางกันสั่น พกง่าย ถ่ายคล่อง เบาสบาย 

ปล. คำว่า "หนอน" คือคำที่ตากล้องในวงการกล้องเมืองไทยเรียกกล้องยี่ห้อ "แคนนอน" นะครับ

วิธีถ่ายภาพให้คมชัดสุด ๆ

วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ และเทคนิคง่าย ๆ จะทำให้ภาพถ่ายคมชัดสุด ๆ จากกล้อง DSLR ที่พวกเรามีกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกล้องแคนนอน นิคอน หรือยี่ห้ออะไรก็แล้วแต่

f/5.6, 1/125s, focal length 122 mm.

เทคนิคที่ทำให้ถ่ายภาพชัดสุด ๆ มีดังนี้ครับ
  • ตั้งกล้องให้ใช้จุดโฟกัสแบบเลือกจุด (อย่าให้กล้องเลือกจุดโฟกัสให้อัตโนมัติ) และเล็งสิ่งที่ต้องการให้ชัดให้ตรงกับจุดโฟกัสนะครับ ส่วนมากแล้ว จุดกลางของกล้องจะเชื่อถือได้ และทำงานเร็วที่สุด
f/5.6, 1/200s, focal length 160 mm.
  • ใช้ความเร็วชัตเตอร์ให้พอเหมาะสำหรับทางยาวโฟกัสแต่ละช่วง เช่น ถ้าใช้เลนส์ไวด์ 24 มม. ความเร็ว 1/24 วินาทีอาจจะพอไหวที่จะใช้มือเปล่าถ่ายได้ แต่ถ้าเป็นเลนส์ความยาวโฟกัส 200 มม. ก็ควรใช้ความเร็วที่สูงกว่า 1/200 วินาที บางคนจะเรียกสูตรแบบนี้ว่า สูตร "1/ความยาวโฟกัส" การใช้ความเร็วชัตเตอร์ไม่เหมาะสมกับทางยาวโฟกัส ก็มีผลทำให้ภาพที่ออกมาเบลอเนื่องจากมือของเราสั่นได้
f/9, 1/160s, focal length 100 mm.
  • ค่ารูรับแสง ที่เราทราบ ๆ กันว่า ยิ่งแคบยิ่งชัด แต่ไม่ได้หมายความว่าการเปิด f/22 ตลอด จะทำให้คมชัดนะครับ (บางทีอาจคมชัดน้อยลงด้วยซ้ำ) แล้วในความเป็นจริง ตากล้องเค้าก็ไม่ทำอย่างนั้นกันด้วย ถ้าต้องการให้ภาพชัดสุด ๆ เราต้องทราบว่า "สวีตสป็อต" ของเลนส์เราอยู่ที่รูรับแสงเท่าไหร่ ซึ่งส่วนมาก จะอยู่ห่างจากค่ารูรับแสงที่กว้างที่สุดประมาณ 1-2 สต็อป (แล้วแต่เลนส์แต่ละตัว) เช่น f/2.8 หรือ f/4 สำหรับคนที่เพิ่งซื้อกล้องมาใหม่ ๆ ที่ยังไม่เลนส์ไวแสง ก็ลองปรับใช้รูรับแสงที่ f/5.6 นะครับ
f/5, 1/200s, focal length 100 mm.
  • หากมีระบบชดเชยการสั่น ก็ให้เปิดใช้ ในกรณีที่ถ่ายภาพกลางคืน ก็ควรใช้ขาตั้งกล้อง ภาพจึงจะออกมาชัดสุด ๆ ไม่เบลอครับ แต่ถ้าวางกล้องบนขาตั้งแล้ว ก็ให้ปิดระบบชดเชยการสั่นนะครับ
  • ถ้ามีเลนส์มาโคร ก็ให้พยายามใช้เลนส์มาโครนะครับ เพราะเลนส์พวกนี้ ถูกออกแบบมาให้ถ่ายภาพคมชัดกว่าเลนส์ทั่ว ๆ ไปอยู่แล้ว เมื่อบวกกับทักษะการปรับค่ากล้องและองค์ประกอบต่าง ๆ ของเรา จะยิ่งทำให้ภาพของเพื่อน ๆ ชัดยิ่งขึ้นไปอีก (จนคนต้องร้อง "ว้าว") . . . 

วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ประสบการณ์ข้อผิดพลาดในการถ่ายมอเตอร์โชว์

ประสบการณ์ข้อผิดพลาดในการถ่ายมอเตอร์โชว์ หรือมอเตอร์เอ็กซ์โป วันนี้นำมาเล่าให้ฟังนะครับ เผื่อมือใหม่ ๆ จะได้ไม่ต้องผิดพลาดเหมือนผม . . .


  • หยิบเลนส์ผิดไป ไปถึงหมดอารมณ์ เลนส์ EF 35 กับ EF 135 หน้าตาคลายกันมาก ๆ หยิบสลับกันหลายทีแล้ว
  • แบตแฟลชหมด แบตแฟลชจะหมดง่ายมาก ประมาณ 200 กว่าช็อตก็หมดแล้ว ขนาดใช้ถ่าย Eneloop ที่เค้าว่ากันว่าอึดที่สุดแล้วนะ ดังนั้น จะต้องมีแบตเตอรี่แฟลชสำรองไปเสมอ
  • แบตกล้องหมด กล้อง DSLR ส่วนมากจะแบตหมดยาก แต่เราก็เคยถ่ายจนแบตหมดมาแล้ว (คือไม่ได้พกแบตเต็มไปแต่แรก) ยิ่งเอากล้องใส่กับเลนส์ 85 1.2L แล้ว ขนาดทางบริษัทเอง ยังเคลมว่าจะทำให้ถ่ายภาพได้เหลือครึ่งเดียวของที่ควรจะถ่ายได้ เพราะเลนส์หนักมาก และกินไฟเยอะมาก (มอเตอร์ตัวใหญ่สุด ๆ)
  • ลืมปรับ ISO กลับ ถ่ายที่มืด ๆ แล้วเร่ง ISO สูง พอไปที่สว่าง ลืมปรับกลับ ทำให้ภาพไม่ได้คุณภาพเต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นถ้าสภาพแสงไม่ยากและเปลี่ยนเรื่อย แนะนำให้ตั้งเป็น Auto ไปเลยจะพลาดยากกว่า แต่ถ้ามือระดับเซียนแล้ว ก็แมนนวลเพื่อเน้น ๆ ก็ไม่มีปัญหา
  • ถ่ายไม่ทัน . . อย่าลืมว่า พริตตี้มอเตอร์โชว์ออกมาเป็นรอบ ๆ นะครับ บางทีเราไปถึง เค้าถ่ายกันมานานแล้ว เราถ่ายไป 4-5 รูปปั๊ป พริตตี้ถึงเวลาพักพอดี อดถ่ายกันเลย


การถ่ายภาพให้สีสด จนตาแทบบอด

มาถ่ายภาพสีสด ๆ กันดีกว่า

วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ การถ่ายภาพให้สีสด ๆ เข้ม ๆ จัด ๆ กันนะครับ โดยจะอธิบายการปรับในกล้อง แบบว่าถ่ายแล้วไม่ต้องเอาไปแต่งนะครับ ถ่ายปั๊ป สดปุ๊ป ย่อภาพแล้วแชร์ได้เลยครับ ส่วนการปรับแต่งด้วยคอมพิวเตอร์ภายหลัง เอาไว้เดี๋ยวมาเล่าในบล็อกถัดไปแล้วกันครับ

นอกจากนี้จะอธิบายเฉพาะกล้องที่ปรับได้นะครับ พวก DSLR เป็นหลักครับ พวกกล้อง Compact หรือกล้องอัตโนมัติต่าง ๆ ขอเว้นไปก่อนนะครับ อีกอย่างจะอธิบายกล้อง Canon และ Nikon เท่านั้นนะครับ ยี่ห้ออื่นไม่ใช่ไม่ดีนะครับ แต่พอดีผมไม่มีกล้องของจริงทดลองครับ เพราะใช้แค่สองยี่ห้อนี้เท่านั้นเองครับ

ภาพนี้ ถ้าเปิดดูในมือถือซัมซุง (ของผมใช้ Galaxy Note 2) ซึ่งขึ้นชื่อว่าหน้าจอสีสดแล้ว ตาเกือบบอด . . . OMG สีสดจริง ๆ ภาพนี้เรียกว่าเป็นภาพที่ผมถ่ายออกมาแล้วสีสดที่สุดในหลายปีเลยทีเดียว เพราะวันนั้นสถานการณ์เอื้ออำนวยพอดีครับ

การถ่ายภาพให้สีสด (สุดๆ)

การที่จะถ่ายภาพให้สีสดสุดๆ นั้น มีหลายปัจจัยด้วยกันคือ
  • สิ่งที่จะถ่าย หรือตัวแบบนั่นเอง
  • การปรับค่ากล้อง
  • ทิศทางแสง
  • อุปกรณ์เสริม เช่น การใช้ CPL, ฟิลเตอร์ครึ่งซีก

สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง คือสิ่งที่จะถ่าย ต้องมีสีพอสมควรนะครับ เช่นมีสีฟ้าของท้องฟ้า สีเขียวของต้นไม้ และสีแดงของดอกไม้ ตัดกันอย่างสวยงาม  ถ้าสิ่งที่เราจะถ่ายไม่มีสีสันแล้ว การได้ภาพที่มีสีสันสดใสนั้นถือว่าอยากทีเดียว ดังคำพูดที่ว่า "แบบดี มีชัยไปกว่าครึ่ง" . . . คล้าย ๆ กับการถ่ายนางแบบแหละครับ ถ้าเลือกนางแบบไม่สวย โอกาสได้ภาพออกมาสวยก็ยาก (ไม่ใช่ทำไม่ได้นะครับ แต่ผมย้ำว่ายากกว่า) แต่ถ้าเลือกนางแบบสวย ๆ ถึงแม้เรากดชัตเตอร์มั่ว ๆ โอกาสได้ภาพไม่สวยยังยากเลยครับท่าน 5 5 5 (แต่ถ้าตั้งใจปรับดี ๆ อาจได้ภาพสวยระดับเทพเลย)


การปรับค่ากล้อง มีวิธีการดังนี้

- เปลี่ยน Picture Style (กล้อง Canon) หรือ Picture Control (กล้อง Nikon) เปลี่ยนให้เป็น Landscape หรือ VIVID แล้วเข้าไปตั้งค่าอย่างละเอียดนะครับ จากนั้นเพิ่ม Saturation ไปซักหลาย ๆ ขีด (กี่ขีด ต้องลองดูภาพที่ออกมานะครับ อย่าให้เวอร์เกินไป) นอกจากนี้ อาจเพิ่มค่า Contrast เข้าไปเล็กน้อย ก็ทำให้สีเข้มขึ้นได้ (แต่อย่าเยอะเกิน)

- ค่า f หรือรูรับแสง ให้ใช้กลาง ๆ อย่ากว้างหรือแคบจนเกินไป เช่นใช้ f/5.6 ถึง f/11 เป็นต้น เพื่อไม่ให้ระนาบที่ชัดนั้นแคบจนเกินไป จนขอบของสีที่ตัดกันเบลอไปหมด

สำหรับเรื่องทิศทางแสง เอาง่าย ๆ เลย คือถ้าต้องการสีสด ๆ ให้ถ่าย ตามแสง อย่าไปย้อนแสงครับ การย้อนแสงทำให้ได้ภาพสีสดยากครับ ท้องฟ้าออกมาก็ไม่ค่อยสวยด้วยครับ เพราะจะต้องเร่งแสงเพื่อให้แบบด้านหน้าสว่างพอ ทำให้ฉากหลังสว่างเกินไป (ทำให้สีอ่อนลง)


อุปกรณ์เสริม มีสองแบบที่นิยมใช้กันคือ CPL หรือฟิลเตอร์โพลาไรซ์ชนิดวงกลม ลักษณะเหมือนฟิลเตอร์ป้องกันเลนส์ครับ แต่สามารถหมุนไปมาได้ . . สำหรับวิธีการใช้ ก็คือเล็งไปยังวิวที่จะถ่าย แล้วหมุนไปมาให้ท้องฟ้ามีสีเข้มที่สุด จากนั้นค่อยถ่ายครับ

ฟิลเตอร์อีกแบบที่ใช้กันก็คือ ฟิลเตอร์ครึ่งซีกแบบสี่เหลี่ยม อันนี้ถือยากหน่อยครับ เพราะเป็นแผ่นสีเหลี่ยม บริเวณส่วนบนจะมีสีเข้ม ส่วนล่างเป็นกระจกใส วิธีใช้งาน ให้วางทาบกับเลนส์เลยครับ แล้วเลื่อนขึ้น-ลง จนกระทั่งส่วนที่มีสีเข้มบังท้องฟ้าที่สว่างมาก ให้มีแสงพอ ๆ กับบริเวณพื้นด้านล่าง จากนั้นค่อยถ่ายครับ

ท้ายที่สุดผมทำเป็นวิดีโอสอนการถ่ายภาพให้สีสด ๆ นะครับ ใครสนใจลองเปิดดูได้ครับ

วิดีโอแนะนำ วิธีถ่ายภาพให้สีสด

นอกจากนี้ ผมทำ Community ใน Google+ ไว้ให้พูดคุย แสดง โชว์ แชร์ภาพสีสด ๆ ของทุกท่านด้วยนะครับ เข้าไปร่วมชุมชนกันที่ ชมรมคนชอบภาพสีสด ผมรอชมภาพสวย ๆ ของทุกท่านอยู่ครับ

* บทความผม สามารถนำไปแชร์ได้ตามสบายเลยนะครับ . . . 
* ผมจะพยายามเขียนเทคนิคการถ่ายภาพเท่าที่ศึกษามา และประสบการณ์ส่วนตัวในการถ่ายสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยภาษาที่ง่าย ๆ เพื่อให้เพื่อน ๆ ถ่ายภาพออกมากันสวย ๆ นะครับ blog.suaythep.com แชร์ด้วยใจ. . .

คัมภีร์ถ่ายพริตตี้

เล่าประสบการณ์ถ่ายพริตตี้

บล็อกนี้อยากเป็นการเล่าประสบการณ์ ที่ไปถ่ายมอเตอร์โชว์ และมอเตอร์เอ็กซ์โปมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ไปทุกครั้ง ครั้งละหลาย ๆ วัน ได้ทั้งภาพสวย ภาพห่วย ภาพระดับเทพ (ภาพรถได้น้อยมากๆ) จนจับทางได้ถูก (หลายปีอยู่)

ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark II + EF 70-200 f/4L IS

ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark III + EF 85 f/1.2L II

ประสบการณ์ผมนะครับ มีทั้งปรับผิด ลืมโน่น ลืมนี่ สารพัด แต่ทำไปทำมาอยู่หลายปี ตอนนี้จับหลักได้แล้ว เลยถ่ายได้ภาพที่น่าพอใจตลอด 5555 (ขอคุยเล็กน้อยนะท่าน)

ถ่ายด้วย Nikon D800 + AF-S 85 f/1.4G

ก่อนอื่น ผมขอทบทวนสูตรการถ่ายภาพให้สวยของผมก่อนนะครับ การที่จะถ่ายภาพสวย มีสูตร (ที่ผมคิดขึ้นเอง) ดังนี้นะครับ
  1. แบบดี มีชัยไปกว่าครึ่ง - เนื่องจากการถ่ายพริตตี้ ก็แปลว่าการคนสวย ๆ ดังนั้นจึงเป็นการยาก ที่จะถ่ายออกมาแล้วน่าเกลียด ดังนั้น นักถ่ายภาพมือใหม่ ๆ จึงนิยมไปถ่ายตามงานที่มีพริตตี้มาก ๆ ซึ่งในงานมอเตอร์โชว์ หรือมอเตอร์เอ็กซ์โปนั้น เป็นแหล่งรวมของสาวสวยมากมาย รวมทั้งค่ายรถต่าง ๆ ก็งัดกลยุทธ์ในการตกแต่งบูธอย่างเต็มที่ ดังนั้นการที่จะได้ภาพสวยนั้น ถือได้ว่าง่ายมาก ๆ เลยครับ คราวนี้ภาพของเราจะสวยมาก หรือสวยน้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยข้อต่าง ๆ เพิ่มเติมแล้วครับ
  2. อุปกรณ์ เลือกให้ถูก จะถ่ายอะไร เตรียมกล้อง+เลนส์ให้ถูกชนิด เช่น ถ้าเน้นถ่ายพริตตี้ ก็ต้องเตรียมเลนส์ แฟลช หรือแม้กระทั่งแฟลชแยก  
  3. มุมแสง ทิศทางแสง ต้องลงตัวเหมาะสม เนื่องจากแสงมาจากหลายทิศทางมาก จึงถ่ายได้เกือบทุกแนว ไม่ว่าจะตามแสง ทำโบเก้ ย้อนแสงจากไฟสป็อตไลท์ ที่มีมากมายในงาน
  4. องค์ประกอบภาพ จัดให้สวยงาม ดูตามสิ่งแวดล้อม อาจถ่ายแบบครึ่งตัว เต็มตัว ยืนคู่กับรถ จับมอเตอร์ไซค์อยู่ แล้วแต่ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคนเลย
  5. อื่น ๆ
ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark II + EF 70-200 f/4L IS

คราวนี้มาพูดถึงเรื่องอุปกรณ์ก่อน ว่าควรใช้อะไรดีนะครับ อันนี้จุดประสงค์ก็ทราบอยู่แล้ว ว่าจะไปถ่ายอะไร ดังนั้น ผมขอแยกดังนี้เลยครับ
  • ถ้าแบกไหว เอาไปให้หมด (ถ้ามีคนช่วยแบก เอาระบบแฟลชแยกไปด้วย)
  • ถ้าแบกไม่ไหว เอาเลนส์ 85 f/1.2L หรือ f/1.8 ใช้ได้หมด, 135 f/2L เลนส์ตัวนี้ถ่ายได้สวยมาก ๆ แถมราคาไม่แพงเวอร์ด้วย หรือจะเป็น 70-200 พร้อมแฟลช และถ้วยมาม่า เลนส์ 85 และ 135 จะเหมาะมากกับพริตตี้ที่สวย ๆ มาก ๆ จะช่วยขับให้สวยเพิ่มขึ้นไปอีก ถึงขั้นสวยระดับเทพทีเดียว ส่วนเลนส์ 70-200 ไม่ว่าจะเป็น f/4 หรือ f/2.8 ก็ทำได้ดีมาก ๆ แต่ด้วยน้ำหนักที่มาก อาจทำให้คนถ่ายถือได้ไม่นาน เพราะถ้าต้องการภาพระดับเทพจริง ๆ ต้องมีแฟลชและถ้วยมาม่าอีก
ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark II + EF 135 f/2L

เคล็ดลับที่รวบรวมได้จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเองนะครับ ไม่รู้ว่าเหมือนของคนอื่นหรือเปล่า

ถ้าเป็นพริตตี้หน้าสวย หุ่นธรรมดา 

ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark II + EF 85 f/1.2L II

หลักการ:
  • ให้ถ่ายครึ่งตัว เน้นหน้า โฟกัสที่ตา เอาให้คมสุด ๆ ไปเลย
  • ใช้เลนส์ระยะเทเล ละลายฉากหลัง เช่น เลนส์ 85, 135, 70-200
  • ทำโบเก้ จากสปอตไลท์ข้างหลัง โดยการจัดให้สป็อตไลท์ด้านหลังเรียงเป็นระเบียบ ไม่ซ้อนทับกันมั่ว ๆ เวลาได้โบเก้จะได้ออกมาสวยงาม สบายตา
  • ปรับค่า f กว้าง ๆ (ตัวเลขน้อย ๆ เช่น f/1.4, f/2.0 เป็นต้น) 
  • ใช้ถ้วยมาม่า ยิงแฟลชขึ้นฟ้า ทำแววตา หน้าตาและสีสันของภาพ จะสวยขึ้นเยอะเมื่อใช้แฟลชที่สวมถ้วยมาม่า (ชื่อเต็ม ๆ คือ Gary Fong Flash Diffuser แต่ช่างภาพคนไทยนิยมเรียกว่าถ้วยมาม่า เพราะรูปร่างเหมือนถ้วยที่เอาไว้กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ขายกันตามห้าง)  

ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark III + EF 85 f/1.2L II

ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark II + EF 135 f/2L

พริตตี้หุ่นสวย หน้าตาธรรมดา 

ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark II + EF 85 f/1.2L

หลักการ:
  • ถ่ายเต็มตัว พร้อมรถ หาฉากประกอบอื่น ๆ
  • อย่าเน้นหน้าพริตตี้มาก เพราะถ้าหุ่นสวย ต้องเน้นหุ่น
  • ใช้เลนส์ระยะนอร์มัล หรือไวด์แองเกิล เช่น เลนส์ 35 f1/.4 หรือ 16-35, 17-40, 10-22 เป็นต้น
  • ปรับค่า f กลาง ๆ ปรับภาพให้สีสดขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย เพราะดึงดูดความสนใจ ถ้าสามารถถ่ายคู่กับรถยนต์สีสด ๆ ยิ่งดีใหญ่
  • พยายามจัดองค์ประกอบภาพให้ดูน่าสนใจ (อันนี้หามุมยากนะครับ ต้องค่อย ๆ บรรจง) แล้วแต่สถานการณ์และจังหวะเฉพาะหน้า ต้องใช้ประสบการณ์ส่วนตัว วิธีการฝึกนะครับ ให้ไปงานพวกนี้บ่อย ๆ แล้วจะค่อย ๆ พัฒนามุมมองและจังหวะเอง

พริตตี้สวยเพอร์เฟกต์ ทั้งหุ่นและหน้าตา

ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark III + EF 85 f/1.2L

หลักการ:
  • ยืนอยู่ตรงนั้น ถ่ายทุกมุม หลาย ๆ แบบ
  • เอาเลนส์ไปกี่ตัว ใช้ให้หมด สลับใช้ทีละชุด ทั้งเลนส์ 85, 135, 35, 24 คือหยิบมาใช้ให้ครบทุกเลนส์ แล้วก็เปลี่ยนสถานที่ยืนของเราไปเรื่อย ๆ ลำดับการเรียงเลนส์ ก็ให้ใช้เลนส์ที่ดีที่สุดที่เรามีก่อน ค่อย ๆ ไล่ไปจนถึงเลนส์ที่ถ่ายสวยน้อยที่สุด เพราะว่าบางที พริตตี้ที่สวยมาก ๆ อาจยืนอยู่ให้ถ่ายไม่กี่นาที จากนั้นก็จะเข้าไปพักข้างในแล้วครับ . . . .
  • มีเทคนิคอะไร ใช้ให้หมด ทั้งการละลายฉากหลัง การทำโบเก้ การถ่ายเต็มตัว ครึ่งตัว ถ่ายพร้อมกับรถ ถ่ายในขณะที่ทำท่าต่าง ๆ 
  • ไม่ต้องเดินไปไหนแล้ว สังเกตง่าย ๆ บริเวณนั้นคนจะยืนเบียดกันแน่นมาก อย่างเช่น น้องสต๊อป คือสวย Perfect จนคนเดินผ่านไปผ่านมา ต้องสต๊อป (หยุด) อยู่ตรงนั้น ไม่ต้องไปไหนต่อละ อะไรอย่างนี้เป็นต้น ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วชื่อ สต๊อป ได้มาจากเรื่องนี้หรือเปล่า เห็นเพื่อนในวงการถ่ายภาพเค้าคุยให้ฟังอีกที ผมเองก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ . . .
  • ช่วงเวลาตรงนี้อาจมีเพียง 10 นาทีนะครับ เพราะพริตตี้จะออกมาเป็นรอบ ๆ ไม่ได้ยืนอยู่อย่างนั้นตลอดนะครับ ดังนั้นก็กะเวลาเผื่อ ๆ สำหรับการถ่ายหลาย ๆ แบบให้พอเหมาะด้วยครับ
ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark III + EF 85 f/1.2L II

เทคนิคในการสร้างภาพให้แตกต่าง

หากต้องการภาพที่มีลักษณะแตกต่างจากผู้อื่น เราก็ต้องใช้เทคนิค และหาอุปกรณ์ที่แตกต่างจากผู้อื่นไปด้วยนะครับ จากประสบการณ์ของผมเท่าที่เคยใช้ และเคยเห็นมา เป็นดังนี้
  • การใช้แฟลชแยก สำหรับตัวผมจะให้เพื่อนช่วยถือแฟลชแยกให้นะครับ (ต้องหาเพื่อนไปด้วยซักคน) แต่หากไปคนเดียว อาจใช้วิธีนำแฟลชแยกเสียบไว้บนขาตั้ง และนำไปวางตามจุดที่ต้องการ ลักษณะเช่นนี้ จะทำให้ได้แสงที่มีทิศทางแสงมาจากแหล่งกำเนิดแสงที่ควบคุมได้ ทำให้ภาพที่ได้มีความแตกต่างจากภาพของคนอื่น 

การใช้แฟลชแยก พร้อมตัวส่งสัญญาณไร้สายในการถ่ายพริตตี้ในงานมอเตอร์โชว์ 

ในภาพคือการใช้แฟลชแยกเสียบไว้บนขาตั้ง (แนะนำให้ใช้แบบที่เบาที่สุด) และติดตัวส่งสัญญาณไร้สาย ไม่ว่าจะเป็น ST-E2, ST-E3 หรือรุ่นที่ควบคุมด้วยสัญญาณวิทยุ ซึ่งมียี่ห้อต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย เพื่อทริกเกอร์ให้แฟลชแยกทำงาน ในการจัดแสง เราสามารถจัดแสงแบบ Rembrandt ก็ได้ ซึ่งช่างภาพคนอื่น ๆ ที่ติดแฟลชไว้บนฮ็อตชูที่หัวกล้อง จะไม่สามารถจัดแสงในลักษณะดังกล่าวได้

ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark II + EF 70-200 f/4L IS

ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark II + EF 70-200 f/4L IS

ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark II + EF 70-200 f/4L IS

ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark II + EF 70-200 f/4L IS

สำหรับตัวผมเอง เวลาไปมอเตอร์โชว์ จะพกเลนส์ไม่มาก (หนักมาก ถือไม่ไหว และไม่คล่องตัว) พร้อมกับแฟลชและถ้วยมาม่า (ขาดไม่ได้เลย) และใช้วิธีการไปหลาย ๆ วันครับ

ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark III + EF 85 f/1.2L II
ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark III + EF 85 f/1.2L II

ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark III + EF 85 f/1.2L II

ภาพนี้เน้นริมไลท์ที่สันจมูก และมีการทำโบเก้จากสป็อตไลท์นิดหน่อย

ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark III + EF 85 f/1.2L II


ถ่ายด้วย Canon EOS 5D Mark II + EF 70-200 f/4L IS

ในวันสุดท้าย หลังจากที่ถ่ายพริตตี้ครบแล้ว ก็จะเตรียมเลนส์สำหรับถ่ายรถยนต์ และจักรยานยนต์เพื่อเน้นถ่ายรถและมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นเลนส์คนละชุดกับเลนส์ถ่ายพริตตี้ . . . . 

* ถ้าชอบเทคนิคการถ่ายภาพ และรูปที่ผมถ่าย ท่านสามารถทวีต และแชร์ใน G+ หรือเฟซบุ๊ค หรือ IG ได้นะครับ (แชร์ได้เต็มที่)
* ผมจะพยายามเขียนเทคนิคการถ่ายภาพเท่าที่ศึกษามา และประสบการณ์ส่วนตัวในการถ่ายสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยภาษาที่ง่าย ๆ เพื่อให้เพื่อน ๆ ถ่ายภาพออกมากันสวย ๆ นะครับ http://blog.suaythep.com