วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

การเลือกซื้อเลนส์ให้คุ้มค่า

หลังจากที่เรามาเริ่มเล่นกล้อง DSLR กันแล้ว ขั้นต่อไปก็คือการเลือกซื้อเลนส์ หลังจากที่เริ่มเบื่อเลนส์คิด 18-55 ที่เค้าแถมมาให้กับกล้อง


เราจะเลือกซื้อเลนส์อย่างไรดี จึงจะคุ้มค่า

"ความคุ้มค่า = การได้ใช้งาน"

ถ้าซื้อมาแล้วได้ใช้บ่อย ๆ ใช้ทุกวัน ถือว่าคุ้มค่ามาก แต่ถ้าซื้อมาแล้วเก็บในตู้ตลอด ปีนึงได้ใช้ทีนึง ถือว่าไม่คุ้มค่าครับ . . . ในบล็อกนี้ ผมจะไม่บอกว่า เลนส์อะไรดี ๆ ให้ซื้อมาให้หมด เพราะทำอย่างนั้น มันไม่คุ้มค่านะครับ เปลืองเงินโดยใช่เหตุ . . . คืออะไรที่เราไม่ถ่าย เราไม่ต้องซื้อครับ

สำหรับมือใหม่ ๆ ที่เพิ่งซื้อกล้องมา หลังจากที่ทดลองเลนส์ 18-55 ไปซักพักหนึ่ง ซึ่งทั้งกล้องยี่ห้อแคนนอนและนิคอนจะชอบแถมเลนส์ตัวนี้มาเป็นประจำ แถมอย่างนี้มาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว ซึ่งจริง ๆ เค้าก็ไม่ได้แถมหรอกครับ คิดเงินรวมเข้าไปแล้วล่ะครับ แล้วบังคับซื้อไปเลย . . . ขั้นต่อไปเราก็จะเริ่มหาเลนส์เพิ่มเติมมาใช้กัน สิ่งที่แนะนำได้เป็นลำดับขั้นตามนี้ก็คือ

เลนส์มาโคร 100

1. สำรวจก่อนว่า ตัวเองชอบถ่ายภาพแนวไหน

ถ้าชอบถ่ายคนที่บ้าน ลูก ๆ หลาน ๆ ครอบครัว หรือถ่ายภาพคนมากกว่าภาพวิว หรือชอบถ่ายไปเรื่อย ๆ แบบว่าเวลาไปเที่ยว ต้องให้คนยืนข้างหน้าตามที่ต่าง ๆ แล้วค่อยถ่ายภาพคนให้ติดวิวด้านหลัง ถ้าเป็นแบบนี้ ถือว่าเราชอบถ่ายภาพคนนะครับ . . . . เลนส์ยอดฮิตที่มือใหม่นิยมต่อจากเลนส์คิตที่แถมมาให้ก็คือ EF 50 1.8 ครับ โดยที่ตัวเลนส์ทำจากพลาสติก น้ำหนักเบา เหมาะกับมือใหม่ และเป็นระยะที่ถ่ายภาพคนได้ไม่เลว ละลายฉากหลังได้ง่าย ราคาถูกมาก ๆ (ถูกที่สุดเลยก็ว่าได้) . . . เลนส์ตัวนี้เป็นระยะโฟกัสคงที่ หรือเรียกว่าเลนส์ฟิกซ์นะครับ สำหรับมือใหม่เวลาเอามาใส่ จะรู้สึกแปลก ๆ นิดหน่อย เพราะมันซูมไม่ได้ จะถ่ายอะไร ต้องเดินเข้าเดินออกเพื่อกำหนดระยะถ่ายเอง

เลนส์อีกตัวที่อยากแนะนำสำหรับผู้ที่ชอบถ่ายคน ก็คือเลนส์ EF-S 55-250 ซึ่งเป็นเลนส์เทเลซูมที่เหมาะสำหรับมือใหม่มาก ๆ เนื่องจากระยะโฟกัสที่ยาวมาก ๆ นำมาประกอบบนกล้อง Crop factor คูณ 1.6 ของแคนนอน ก็เทียบเท่ากับเลนส์ระยะ 88-400 บนกล้องฟุลเฟรมทีเดียว เรียกว่าหากเจอนก หรืออะไรตัวเล็ก ๆ อยู่ไกล ๆ ก็สามารถดึงเข้ามาจนใกล้ได้เลย หรือจะเอาไว้ถ่ายดวงจันทร์ ก็ไม่เลวทีเดียว

หากชอบท่องเที่ยวไปเรื่อย ๆ และชอบถ่ายภาพวิวเยอะ ๆ ไม่ค่อยถ่ายคนที่บ้าน หรือเพื่อน ๆ เท่าไหร่ ก็แนะนำเลนส์ไวด์ EF-S 10-22 (สำหรับกล้อง Crop factor ที่มีเซนเซอร์ APS-C) นะครับ เลนส์ตัวนี้ เหมาะสำหรับถ่ายภาพวัด ภาพวิว ภาพทิวทัศน์ มีมุมมองที่กว้างมาก ๆ หากเทียบกับกล้องฟุลเฟรม จะเทียบได้กับระยะ 16-35 ซึ่งเป็นเลนส์ไวด์ซูมตัวเทพของแคนนอนเลย

เลนส์ 50 ธรรมดา

2. ดูงบประมาณ ว่ามีมากน้อยเพียงใด 

>>> หากมีงบไม่จำกัด แนะนำให้ใช้เลนส์ L หรือเลนส์นาโนอย่างเดียวครับ แล้วก็รีบหากล้องฟุลเฟรมมาใช้โดยด่วนที่สุด เพราะภาพที่ได้จากกล้องเหล่านี้ จะมีคุณภาพดีมาก ๆ เมื่อบวกกับเลนส์ดี ๆ จะช่วยเสริมกันได้อย่างสมบูรณ์ ลองไปดูช่างภาพที่ถ่ายสวย ๆ ทุกคนใช้กล้องฟุลเฟรมทั้งนั้นครับ สำหรับผู้ที่เพิ่งมาเล่นกล้องฟุลเฟรมใหม่ ๆ ลองดูเลนส์ 3 ระยะนี้ครับ 16-35, 24-70, 70-200 สำหรับกล้องแคนนอน ส่วนสำหรับกล้องนิคอน ต้องใช้ 14-24, 24-70, 70-200 ถ้ามีครบ 3 ระยะนี้ก็ถ่ายได้แทบทุกสถานการณ์ครับ

>>> หากต้องใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า และไม่ต้องการซื้อเลนส์บ่อย ๆ ก็ให้ใช้เลนส์ซูมครับ ลองดูเลนส์อเนกประสงค์ ตัวเดียวใช้ทุกสถานการณ์ของ Tokina 18-270 คือซื้อตัวเดียว แล้วไม่ต้องซื้อเลนส์อะไรอีกเลย มีครบทุกระยะ แต่ก็ต้องแลกกับคุณภาพว่าจะสู้เลนส์ฟิกซ์ หรือเลนส์ซูมที่มีช่วงการซูมระยะสั้น ๆ ไม่ได้ เช่น EF 16-35, EF 24-70, EF 70-200 คือยิ่งเลนส์มีช่วงการซูมสั้นลง ยิ่งมีคุณภาพดีขึ้น ส่วนถ้าเป็นเลนส์ฟิกซ์เลย จะมีคุณภาพดีที่สุดครับ

เลนส์ 35 นาโน

สำหรับเลนส์ฟิกซ์เอง ก็มีหลายเกรดครับ มีตั้งแต่ราคาน่าคบหา ราคากลาง ๆ ไปจนถึงราคาสูงลิ่ว เช่นเลนส์ระยะ 50 มม. ก็มีตัว 50 f/1.8, 50 f/1.4 แล้วก็ 50 f/1.2L หรือเลนส์ 85 มม. ที่ว่ากันว่าเป็นระยะที่เหมาะกับการถ่ายคน หรือถ่ายคนแล้วออกมาสวยที่สุด ก็มีตัว 85 f/1.8 ราคาประหยัด ส่วนตัวแพงก็จะเป็น 85 f/1.2L มีทั้งมาร์ก 1 และ 2 เลยครับ สำหรับค่ายนิคอน ก็เช่นเดียวกัน เลนส์แต่ละระยะ จะมีการผลิตออกมาหลายระดับ เช่น เลนส์ 85 ก็มีทั้งตัว f/1.8 และ f/1.4 เลยครับ ก็เลือกใช้ให้เหมาะกับงบประมาณ และที่ตัวเองชอบนะครับ

"เลนส์เทเลถ่ายสวยง่าย เลนส์ไวด์ถ่ายสวยยาก"

ข้อแนะนำสำหรับมือใหม่จริง ๆ (มือเก่าไม่ต้องทำตามนะครับ)
  1. เมื่อซื้อกล้องมา ให้ใช้ EF-S 18-55 ถ่ายให้คล่องก่อน เพราะเลนส์ช่วงนี้เทียบเท่าเลนส์นอร์มัล ถ่ายได้ทุกสถานการณ์อยู่แล้ว และทางด้านไวด์ ก็เพียงพอที่จะเก็บวิวได้เกือบทุกสถานการณ์อยู่แล้ว หากต้องการละลายฉากหลัง ก็ให้พยายามถ่ายที่ระยะ 55 มม. แล้วเปิด f กว้างสุด แล้วก็พยายามถ่ายจ่อ ๆ นางแบบ ใช้พลาง ๆ ไปก่อน มันจะละลายฉากหลังไม่ได้มาก เพราะบริษัทขายกล้องเค้าออกแบบไว้อย่างงั้น เพื่อที่คนจะได้ไปซื้อเลนส์เพิ่ม
  2. พอได้ได้ซักพัก ช่วงแรก ๆ ให้เริ่มจากเลนส์เทเลก่อน เช่น EF-S 55-250 เพราะถ่ายง่าย กดอะไรก็ออกมาค่อนข้างสวยง่าย ทำให้มีกำลังใจ อยากถ่ายต่อไปเรื่อย ๆ 
  3. เมื่อผ่านไปอีกซักช่วง หากต้องการถ่ายพอร์ตเทรตมากขึ้น ก็ให้ลอง EF 50 f/1.8 ราคาประหยัด แต่ได้ผลงานที่คุ้มค่า สามารถทำให้เพื่อน ๆ ร้องว้าวได้สบาย ๆ เลนส์ตัวนี้ เค้าออกแบบมาให้เป็นพลาสติกเบา ๆ สำหรับมือใหม่โดยเฉพาะ แต่การใช้งานต้องระวังกระแทกนะครับ เพราะพังง่าย สมัยก่อนตอนผมหัดใหม่ ๆ ใช้จนพังมาแล้ว 
  4. เมื่อคิดว่าถ่ายเลนส์เทเลเก่งแล้ว หรือเบื่อแล้ว และพัฒนาการจัดองค์ประกอบได้ดีขึ้นแล้ว ค่อยมองหาเลนส์ไวด์มาใช้ โดยอาจเป็นเลนส์ EF-S 10-22 หากคิดว่าจะใช้กล้องบอดี้นี้ต่อไปอีกนานมาก ๆ หรือถ้าจะเปลี่ยนกล้อง ก็คงใช้กล้อง APS-C ต่อไปอีก เลนส์ 10-22 นี้นับเป็นเลนส์ที่ดีที่สุดสำหรับกล้องตัวคูณนี่แล้วครับ แต่หากคิดว่าอีกไม่นาน คงเปลี่ยนไปใช้กล้องระดับฟุลเฟรม ถึงช่วงนี้แล้ว เวลาจะซื้อเลนส์ใหม่ ให้ดูเฉพาะเลนส์ EF เท่านั้น เพื่อที่จะได้นำไปใช้ในกล้องฟุลเฟรมต่อได้ 
เลนส์ L ของค่ายแคนนอน หัวเลนส์จะมีแหวนสีแดง

เลนส์แพง จำเป็นต้องดีไหม?

เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย และถามผมเป็นประจำ แน่นอนว่าของแพง มันต้องดีแน่นอน แต่ว่ามันจะเหมาะกับเรา หรือเราจะเหมาะกับมันหรือเปล่า นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งนะครับ

ยกตัวอย่างเช่น เลนส์ EF 200 f/2L มันถ่ายออกมาสวยแน่นอน แต่ว่าน้ำหนักตัวเลนส์เยอะมาก แล้วถ้าหากต้องการถ่ายวิว แทบจะถ่ายไม่ได้เลย ส่วนมากแล้ว เลนส์ระยะโฟกัสคงที่ จะเป็นเลนส์เฉพาะทางครับ เลนส์แต่ละตัวจะมีสถานการณ์การใช้ที่แน่นอน แต่ภาพที่ได้นั้น จะมีคุณภาพสูงมาก ๆ หรือเลนส์อีกตัวคือ EF 14 f/2.8L II ซึ่งเป็นเลนส์ไวด์คุณภาพสูงสุดของค่ายแคนนอน ถ่ายวิวออกมา สวยแน่นอน แต่หากบังเอิญเราเดินผ่านพริตตี้ จะถ่ายได้ไหม ถ่ายออกมาหน้าบานชัวร์ (ปกติถ่ายคน หากใช้เลนส์ไวด์ หน้าจะอ้วน บาน และไม่สมส่วน) แต่ถ้าบังเอิญกล้องเราติดเลนส์ซูม 24-70 ไว้ ถึงแม้คุณภาพของภาพจะไม่สุดยอดที่สุด แต่ก็สามารถถ่ายได้พอสมควร และนำไปโชว์ได้บ้างแบบไม่อายใคร . . . อะไรอย่างนี้เป็นต้น

>>> หากถ่ายภาพไปนานมาก ๆ ตู้เลนส์ทั้งตู้จะเหลือแต่เลนส์ฟิกซ์ดี ๆ เท่านั้น เพื่อน ๆ ที่เป็นเซียนกล้องของผมทุกคน ก็ใช้แต่เลนส์ฟิกซ์ทั้งนั้น ไม่มีใช้เลนส์ซูมกันซักคน . . . . เวลาจะไปทริป เค้าจะศึกษาอย่างละเอียดว่าทริปนั้นมีอะไรบ้าง ต้องพกเลนส์อะไรไป หรือทริปที่จะไป เค้าจะเน้นถ่ายภาพอะไรโดยเฉพาะ บางทีไปทริปหนึ่งครั้ง อาจมีภาพระดับสุดยอดเพียง 3-4 ภาพเท่านั้น (แต่ดีกว่ามี 100 ภาพ แต่ไม่สุดยอดซักภาพ)

แต่พอมีอุปกรณ์ดี ๆ เต็มตู้แล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาแล้วนะครับ เพราะบางที การจะไปไหนซักครั้ง คิดหนักเลยครับ ต้องนั่งจินตนาการว่า ไปถึงที่หมายแล้ว จะเจออะไร สภาพแสงเป็นอย่างไร มีอะไรถ่ายบ้าง อะไรเป็นจุดเด่นของที่ที่เราจะไป แล้วมาเลือกเลนส์กับอุปกรณ์ให้เหมาะ บางทีเลือกไม่ถูกครับ แต่ถ้าจะขนไปหมดเลย ก็แบกไม่ไหวอีก (เลนส์ดี ๆ ส่วนมากจะน้ำหนักมาก) . . . กลัวหายด้วย ตอนผมไปทริปอเมริกาครั้งแรก ขนไปเยอะเลยครับ กล้องฟุลเฟรม 2 ตัว เลนส์อีก 7 ตัว ปรากฏหน้ามืด . . . . ทั้งหมดนั่นก็ทิ้งอยู่ที่บ้านที่อเมริกาแทน เวลาออกไปเที่ยว ก็เอาไปได้ทีละตัวอยู่ดี . . . ตอนไปอเมริการอบ 2 ตอนปีใหม่ คราวนี้มีประสบการณ์แล้ว ก็ขน D800 ตัวนึงแล้วเลนส์ 35 กับ 85 แล้วก็เลนส์ 28-300 ไปอีกตัว สรุปว่าก็ยังหนักไปอยู่ดี . . . เดี๋ยวนี่จะไปรอบ 3 แล้ว เป็นยังไงเดี๋ยวกลับมาเล่าให้ฟังนะครับ

บางทีเลือกเลนส์มาอย่างดีแล้ว พอไปถึงที่ เหตุการณ์ดันไม่เป็นอย่างที่คิด คือท้องฟ้าดันเปลี่ยน แบบว่าไปฮ่องกง 3 วันฟ้าอึมครึมตลอด หรือจู่ ๆ ดันไปเจอคนสวย ๆ ที่ต้องใช้เลนส์เทเลถ่าย บางทีน้อง ๆ ในกลุ่ม พกเลนส์อเนกประสงค์ (ตัวเดียวใช้ทุกสถานการณ์) ไปตัวเดียว กลับได้ภาพดี ๆ สวยกว่าเราก็เกิดขึ้นบ่อย ๆ

* * * จะถ่ายภาพให้ได้ขั้นเทพ ต้องอุปกรณ์ดี จินตนาการดี ฝีมือดี และมีโชคช่วยด้วย * * **

ท้ายที่สุด สรุปว่าไม่มีอะไรดีที่สุดหรอกครับ ไม่ใช่ว่าสิ่งที่แพงที่สุด จะดีที่สุดเสมอไป ที่สำคัญคือว่า เราต้องรู้ว่า แต่ละสถานการณ์เราจะใช้อะไร จึงจะเหมาะสมที่สุด และได้ผลลัพธ์ในแบบที่เราต้องการมากที่สุดครับ . . . หวังว่าประสบการณ์นี้ คงเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อกล้องกับเลนส์ตัวถัดไปของเพื่อน ๆ พี่น้องไม่มากก็น้อยนะครับ . .  ไว้พบกันใหม่


วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

การทำริมไลท์

การทำริมไลท์ (Rim Light)

ริมไลท์ หรือแสงขอบ ที่ดูเหมือนเป็นการตัดเส้นตัวแบบโดยใช้แสงธรรมชาตินั้น เป็นเทคนิคที่สามารถทำให้ภาพน่าสนใจมากขึ้นทีเดียว โดยมีหลักในการจัดแสงที่ไม่ยากเลย

ตัวอย่างของภาพที่มีการทำริมไลท์