เมื่อหมดมุกถ่ายภาพ ทำยังไงดี
เวลาถ่ายภาพไปนาน ๆ หลาย ๆ ปีต่อเนื่อง 7-8 ปี แบบว่าถ่ายทุกวัน วันละ 300-400 รูป ถ่ายมาแล้วทุกแนว แล้วจู่ ๆ หมดมุก คือไม่รู้จะถ่ายอะไรละ แบบว่าถ่ายอะไรก็ไม่สามารถทำให้เราตื่นเต้นแล้ว เพื่อน ๆ เคยเป็นกันไหมครับ ตัวผมเองก็เคยเป็น บางทีแช่กล้องทิ้งไว้ในตู้เฉยๆ ไม่ได้ถ่ายอะไรเลย 2-3 อาทิตย์ ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเกิดขึ้นกับเราได้ วันนี้เลยอยากเขียนบล็อกเล่าประสบการณ์ และแชร์ไอเดียจากการค้นหาข้อมูลจากในเน็ต เผื่อจะมีประโยชน์กับเพื่อน ๆ พี่น้องบ้าง
ไอเดียสำหรับสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ เมื่อหมดมุกถ่ายภาพ
เปลี่ยนสถานที่ถ่ายภาพ
หากถ่ายภาพแถวบ้าน หรือในจังหวัดของตัวเองไปจนไม่รู้จะถ่ายอะไรแล้ว ลองเปิดอินเทอร์เน็ต แล้วจองตั๋วเครื่องบิน บินออกไปไกล ๆ ในสถานที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน อาจจะไปในประเทศที่มีภูมิอากาศไม่เหมือนกับในเมืองไทย เช่น เมืองหนาวในฤดูที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี ซึ่งจะเป็นทิวทัศน์ซึ่งทำให้เราเกิดแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกมากมาย หรือจะในช่วงหิมะตกก็ได้ ซึ่งต้นไม้ต่าง ๆ จะมีแต่กิ่ง และบางครั้ง อาจมีหิมะเกาะตามกิ่งต่าง ๆ ทำให้ตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก
ยังไงลองไปตามสถานที่เหล่านี้ดูนะครับ
- ต่างจังหวัด แค่ขับรถไปหาโลเคชั่นดี ๆ นอกเมือง บางครั้งก็สร้างแรงบันดาลใจได้เยอะทีเดียว
- ต่างประเทศ ลองลงทุนจ่ายค่าตั๋วแพง ๆ ไปถ่ายที่ต่างประเทศดูซักครั้ง
- ภูเขา อาจเป็นที่เขาใหญ่ เชียงใหม่
- ทะเล ไม่ว่าจะเป็น ชะอำ หัวหิน พัทยา หรือจะใกล้ ๆ ที่บางแสน
- น้ำตก ซึ่งมีมากมายหลายที่มาก
- สวนสนุก ส่วนมากสวนสนุกมักมีอะไรสวย ๆ ให้ถ่ายเสมอ
- พิพิธภัณฑ์ที่ไม่เคยไปมาก่อน
เปลี่ยนอุปกรณ์การถ่ายภาพ
ธรรมชาติของคนทุกคนในโลกนี้ชอบถ่ายรูป นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม โทรศัพท์ทุกเครื่องถึงต้องมีกล้องติดเอาไว้ แล้วขายดีเป็นเทน้ำเทท่า บางคนชอบถ่ายรูปแต่ไม่ชอบแบกของอะไรหนัก ๆ ชอบไปแบบตัวเบา ๆ มากกว่า แต่สำหรับพวกเราที่เป็นพวกชอบแบกกล้องอะไรใหญ่ ๆ หนัก ๆ หากหมดมุกหรือหมดไฟในการถ่ายภาพแล้ว ลองทิ้งอุปกรณ์ระดับเทพของเราไว้ที่บ้าน แล้วลองเดินตัวเปล่า ๆ พกกล้องเบา ๆ หรือมือถือติดกล้องดี ๆ ซักตัว แล้วออกไปข้างนอกทั้งอย่างนี้เลย เชื่อได้เลยว่า เราจะได้ภาพที่มีมุมมองแปลก ๆ ใหม่ๆ อย่างที่เราไม่เคยได้มาก่อน แล้วสร้างแรงบันดาลใจกลับมาให้เราอีกครั้ง
- กล้องมือถือ ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น iPhone 6 หรือ Galaxy Note 4 ต่างก็ให้ภาพที่มีคุณภาพสูงมาก ผมซื้อมาลองดูแล้ว แม้จะไม่สามารถเทียบกล้องใหญ่ได้ แต่ถ้าเราเน้นมุมมอง ก็สามารถสร้างภาพที่น่าทึ่งได้ทีเดียว
- กล้องมิร์เรอร์เลส ให้คุณภาพที่รองจาก DSLR แต่ด้วยขนาดที่เล็กลงมาก ก็ทำให้การเคลื่อนไหวของเราเป็นอิสระมากขึ้น และเหนื่อยน้อยลง ตอนนี้มีหลายค่ายผลิตออกมาเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นค่ายโซนี่ หรือค่ายฟูจิฟิล์มก็ไม่เลว
- กล้องคอมแพค มีตั้งแต่ขนาดเล็กมาก ราคาถูก ๆ แต่ฟังก์ชั่นเพียบ ไปจนถึงแบบใหญ่ ๆ หนัก ๆ ซึ่งในกรณีนี้ เราอาจไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะคล้ายกับกล้องที่เราถ่ายกันประจำอยู่แล้ว ในกรณีนี้ ลองถ่ายด้วยกล้องเล็ก ๆ เพื่อที่จะได้มุมมองใหม่ ๆ ในการถ่ายภาพดู
เปลี่ยนตัวแบบในการถ่ายภาพ
การมีนางแบบสวย ๆ หล่อ ๆ มาเป็นแบบให้เรา ก็สามารถช่วยในการถ่ายภาพได้เยอะ เพราะโอกาสที่จะได้ภาพสวย ๆ นั้นมีมากขึ้น ทำให้เกิดกำลังใจและแรงบันดาลใจในการถ่ายต่อไป สิ่งต่อไปนี้เป็นคำแนะนำทั่ว ๆ ไปเวลาที่เราถ่ายแต่คนเดิม ๆ ซ้ำ ๆ มานานมาก
- เรียกเพื่อนคนใหม่มาเป็นแบบ
- จ้างนางแบบ มีนางแบบสวย ๆ มืออาชีพที่รับจ้างเป็นแบบโดยเฉพาะในเน็ตมากมายเลย
- ลองถ่ายฝรั่งดู ชาวต่างชาติมักมีจมูกโด่ง ผมสีทอง และตาสีฟ้า การที่เราเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง ก็ทำให้เราพบสิ่งใหม่ ๆ ที่น่าค้นหามากมายทีเดียว
เปลี่ยนวิธีถ่าย
ถ้าทำทุกวิธีแล้ว ก็ยังเบื่อ ๆ และหมดมุกในการถ่ายอีก ลองเรียนรู้ และใช้เทคนิคการถ่ายภาพเหล่านี้ดู อาจกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ขึ้นได้
- พาโนราม่า แรก ๆ อาจลองจากกล้องคอมแพค หรือมือถือก่อนก็ได้ เพราะทำได้ง่าย ๆ แบบเรียลไทม์กันทีเดียว ไม่ต้องถ่ายมาเยอะ ๆ แล้วมาต่อภาพในคอมพิวเตอร์อีกครั้ง เดี๋ยวจะยิ่งหมดอารมณ์ถ่ายกันไปใหญ่
- 360 องศา แรก ๆ อาจลองใช้แอป Sphere ในมือถือ ที่เค้าปล่อยให้โหลดมาเล่นกันฟรี ๆ ก่อนก็ได้
- ถ่ายให้เป็น 3 มิติ อาจทำแบบสมัครเล่น หรือมืออาชีพเลยก็ได้ สำหรับตัวผม ทำเล่น ๆ สนุก ๆ โดยการใช้กล้อง DSLR ของเรานี่แหละ ถ่ายภาพ 2 ถ่ายจากตาซ้ายและตาขวา จากนั้นนำมาต่อกันในคอมพิวเตอร์ และนำไปเปิดในโทรทัศน์ 3 มิติ เวลาดูต้องใส่แว่น 3D ดูด้วย จะเห็นภาพทะลุออกมานอกจอภาพเลยทีเดียว
- ถ่ายเป็นวิดีโอ พอถ่ายภาพมามาก ๆ แล้ว นาน ๆ ที ลองเปลี่ยนมาถ่ายวิดีโอดูบ้าง ก็สามารถสร้างความบันเทิงได้ไม่น้อย กล้อง DSLR สมัยใหม่ส่วนมาก มีคุณสมบัติในการถ่ายวิดีโอระดับ Full HD ที่ 1080p กันอยู่แล้ว
การหัดแต่งภาพ
หากเราเป็นคนที่แต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์ไม่เป็น ชอบถ่ายแบบ "จบหลังกล้อง" บางครั้งก็อาจทำให้เราหมดมุกเร็วกว่าคนอื่น ๆ ก็เป็นได้ ดังนั้น หากแนวคิดของเราตันแล้ว ลองเริ่มศึกษาการแต่งภาพในคอมพิวเตอร์ หรือที่เค้าเรียกกันว่า การโปรเซสภาพดูบ้าง ก็อาจทำให้เราได้มุกใหม่ๆ ในการถ่ายภาพขึ้นอีกเป็นกองเลยทีเดียว การถ่ายภาพโดยวางแผนว่าจะต้องนำภาพไปโปรเซสภายหลังนั้น มีวิธีการปรับค่ากล้องที่แตกต่างจากการที่จะให้ได้ภาพทันทีหลังจากที่ถ่าย บางครั้ง เราอาจต้องวางแผนถ่ายภาพให้ภาพที่ถ่ายได้ ออกมามืดมาก ๆ (จนแทบดูไม่ได้หลังกล้อง) เพื่อที่เราจะนำไปใช้อะไรบางอย่างในขณะที่ตกแต่งภาพภายหลัง . . . อะไรอย่างนี้เป็นต้น เรียกว่าการทำเช่นนี้ จะทำให้เราต้องคิดมากขึ้น วางแผนมากขึ้น ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ มากขึ้นจากการเรียนรู้การแต่งภาพแบบใหม่ ๆ
ยังไง ลองทำตามคำแนะนำต่าง ๆ ข้างต้นดูนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น